เริ่มต้นใช้งาน Directory Sync

ใช้ Directory Sync เพื่อซิงค์ข้อมูลผู้ใช้และกลุ่มจากไดเรกทอรีภายนอกไปยังไดเรกทอรีระบบคลาวด์ของ Google กระบวนการซิงค์เกิดขึ้นในระบบคลาวด์ คุณจึงไม่ต้องติดตั้งไคลเอ็นต์การซิงค์หรือซอฟต์แวร์ภายในองค์กร Directory Sync เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการซิงค์ข้อมูล Microsoft Active Directory (AD) หรือ Microsoft Entra ID กับบัญชี Google ขององค์กร

ทีมสนับสนุนของ Google Workspace ไม่มีบริการสนับสนุนสำหรับเครื่องมือการย้ายข้อมูลของบุคคลที่สาม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อการสนับสนุนสำหรับเครื่องมือของบุคคลที่สาม

ตั้งค่า Directory Sync

ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้หากคุณใช้ AD (หากใช้ Microsoft Entra ID ให้ข้ามไปที่ขั้นตอนที่ 4)

1. ตรวจสอบว่าคุณมีการเชื่อมต่อระหว่าง Google Cloud กับ AD

   ก่อนเริ่มต้น โปรดตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่าง Google Cloud และเซิร์ฟเวอร์ LDAP ใช้งานได้

2. ตั้งค่าเครื่องมือเชื่อมต่อการเข้าถึง VPC ใน Google Cloud

   คุณต้องมีเครื่องมือเชื่อมต่อการเข้าถึง Virtual Private Cloud (VPC) เพื่ออนุญาตให้ Directory Sync เชื่อมต่อกับ AD ได้โดยใช้การตั้งค่าเครือข่ายที่มีอยู่

3. เปิดใช้ Data Connectors API

   เปิดใช้ Data Connectors API โดยใช้โปรเจ็กต์เดียวกับที่คุณตั้งค่าเครื่องมือเชื่อมต่อการเข้าถึง VPC

4. เพิ่มไดเรกทอรีภายนอกไปยัง Directory Sync

   ใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google เพื่อเชื่อมต่อกับไดเรกทอรีภายนอกโดยใช้ Directory Sync

5. กำหนดค่าการซิงค์ผู้ใช้และกลุ่มใน Directory Sync

   เลือกวิธีที่ต้องการซิงค์ผู้ใช้และกลุ่มกับไดเรกทอรีในระบบคลาวด์ของ Google คุณตั้งค่านี้ได้ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ตรวจสอบการตั้งค่าโดยเรียกใช้การซิงค์จำลอง

6. เรียกใช้การซิงค์

   เริ่มซิงค์ข้อมูลไปยังไดเรกทอรีในระบบคลาวด์ของ Google โดยติดตามความคืบหน้าได้ในหน้าการตรวจสอบและการสืบสวนของคอนโซลผู้ดูแลระบบ

การสนับสนุนสำหรับเครื่องมือของบุคคลที่สาม

• หากใช้เครื่องมือการซิงค์ของบุคคลที่สาม เช่น บริการจัดสรร Microsoft Entra ID คุณจะสร้างเคสขอรับความช่วยเหลือของ Workspace ได้หากปัญหาเกี่ยวข้องกับ Directory API โดยเคสเหล่านี้จะได้รับการมอบหมายให้กับทีมสนับสนุนของคอนโซลผู้ดูแลระบบ
• ในเคสขอรับความช่วยเหลือสำหรับเครื่องมือของบุคคลที่สาม ทีมสนับสนุนของ Workspace อาจระบุว่า Google API เป็นสาเหตุของปัญหาแล้วส่งต่อเคสไปยังทีม API ที่เหมาะสม และให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการสนับสนุนของ Workspace แก่คุณ

ขั้นตอนถัดไป

ตรวจสอบข้อกำหนดของระบบ